วัดพระหินขาว สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่า

myanmar-0005

คณะทัวร์พม่า เคยพาท่านไปมนัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่ามาก็หลายครั้งหลายหน มาครานี้ ทัวร์พม่าจะก็จะพาไปชมอีกหนึ่งความงามของประเทศชาติพม่าที่วัดพระหินขาว พร้อมบอกเล่าประวัติศาสตร์อันยาวยาวนานของวันนี้ ถ้าท่านพร้อมแล้วตามทัวร์พม่ามาได้เลย

วัดพระหินขาว หรือไม่ที่มีชื่อเรียกอย่างทางการว่า “Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image” พระหินขาวนี้สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดพร้อมทั้งไม่มีตำหนิ    สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูพร้อมกับประทานความเจริญก้าวหน้า นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ พื้นที่ด้านหลังพระพุทธรูปด้วย จากนั้นชมช้างเผือกคู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่าในอาณาเขตใกล้กันศาสนสถานที่พิเศษพร้อมกับศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ใน เมืองหงสาวดี คือพระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี เคยแหลกสลายทลายลงมาเพราะว่าแผ่นดินไหวเมื่อ พ.ศ. 2473 ใช่หรือไม่เมื่อ 74 ปีที่แล้ว ต่อมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2497 ปัจจุบันนี้พระธาตุมุเตามีความสูงประมาณ 125 เมตร พระราชวังหงสาวดี หรือเปล่า Kanbawzathadi Palace โบราณกาลพระราชวังของ พระเจ้าบุเรงนองกยอดิน นรธาที่คนไทยรู้จักในดีในชื่อของผู้ชนะสิบทิศ สิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะอาจจะเป็น ตำหนักที่บรรทมและท้อง พระโรงที่ออกว่าราชการซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังปัจจุบันนี้ พร้อมกับเคยคือที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์พร้อมกับถูกจับเป็นตัวประกัน ในอดีตพระราชวังแห่งนี้ทำขึ้นในปี พ.ศ. 2109 มีผังเกือบคือรูปสี่เหลี่ยม กำแพงแต่ละด้านยาวประมาณ 1.5 ไมล์ถูกสร้างขึ้นไปใหม่ตามบันทึกของ นายราล์ฟ ฟิตซ์ ชาวอังกฤษซึ่งเข้ามาติดต่อสื่อสารค้าขายและได้เห็นเมืองหงสาวดีในยุคก้าวหน้าได้บรรยายไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2129 ก่อนที่พระราชวังหงสาวดีซึ่งถูกสร้างขึ้นไปอย่างสวยงามงามจะอาจจะถูกเผาทำลายลงในปี พ.ศ. 2143 พระพุทธไสยาสน์ชเวทาลยวง ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดี พระพุทธรูป องค์นี้มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นไปโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 พระพุทธรูปองค์นี้ได้ตากแสงอาทิตย์กรำฝนอยู่เป็นเวลาหลายร้อยปีจนกระทั่งเสื่อมลง ระหว่างนั้นก็ได้มีการบูรณะมาโดยตลอด

แต่ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าอลองพญาแห่งราชวงศ์คองบอง ปราบมอญราบคาบ เมืองหงสาวดีถูกทิ้งร้างพระพุทธไสยาสน์ก็ถูกทอดทิ้งจนกลางคือแค่เพียงกองอิฐถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมจบ จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษ ทำทางรถไฟสายพม่าใต้ จึงได้เจอพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างจริงจัง โดยทาสีพร้อมทั้งปิดทองใหม่อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ พระมหาเจดีย์ พระมหาเจดีย์ซึ่งทำโดยพระเจ้าบุเรงนอง ในปี พ.ศ. 2103 เพื่อที่จะประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจากลังกาพร้อมกับ พระเจดีย์ไจปุ่น ซึ่งมีอายุเยอะแยะกว่า 500 ปี ทำเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์หันพระพักตร์ไปทุกทิศทาง แทนความหมายถึง พระพุทธเจ้า ทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัป ได้เวลาสมควรนำคุณเดินกลับสู่กรุงย่างกุ้ง